พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [3. ตติยวรรค] 2. อริยันติกถา (22)
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในฐานะและอฐานะ
เป็นอริยะ มีอัปปณิหิตะเป็นอารมณ์ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในความสิ้นไปแห่ง
อาสวะเป็นอริยะ มีสุญญตะเป็นอารมณ์ ฯลฯ มีอนิมิตตะเป็นอารมณ์ ฯลฯ มี
อัปปณิหิตะเป็นอารมณ์ใช่ไหม
สก. ใช่ ฯลฯ
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในจุติและปฏิสนธิ
ของสัตว์ทั้งหลายเป็นอริยะ มีอัปปณิหิตะเป็นอารมณ์ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในฐานะและอฐานะ
เป็นอริยะ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า มีสุญญตะเป็นอารมณ์ ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในความสิ้นไปแห่ง
อาสวะเป็นอริยะ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า มีสุญญตะเป็นอารมณ์ ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในฐานะและอฐานะ
เป็นอริยะ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า มีอนิมิตตะเป็นอารมณ์ มีอัปปณิหิตะเป็นอารมณ์
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. กำลังของพระตถาคตคือปรีชาหยั่งรู้ตามความเป็นจริงในความสิ้นไปแห่ง
อาสวะเป็นอริยะ แต่ท่านไม่ยอมรับว่า มีอัปปณิหิตะเป็นอารมณ์ ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ